 |
นิทาน |
 |
นิทานคนมีศิลปะ
นิทาน คนมีศิลปะ (สมาคมผู้บริโภคสื่อสีขาว) ในสมัยหนึ่งมีพระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุผู้ฆ่าหงส์รูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานสาธกว่า… กาล
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ในเมืองพาราณสี
มีพราหมณ์ปุโรหิตผู้พูดมากคนหนึ่งประจำราชสำนัก
ถ้าเขาได้พูดแล้วคนอื่นจะไม่มีโอกาสได้พูดเลย
สร้างความรำคาญให้แก่ผู้คนเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งพระราชา
พระองค์จึงคิดหาวิธีสกัดคำพูดของปุโรหิตนั้น วัน
หนึ่ง พระองค์เสด็จไปพระอุทยานด้วยพระราชรถ
พอถึงต้นไทรได้ทอดพระเนตรเห็นพวกเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังยืนมุงดูชายง่อยเปลี้ย
ผู้หนึ่ง ดีดก้อนกรวดซัดใส่ใบไม้เจาะรูเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ อยู่
จึงเสด็จเข้าไปทอดพระเนตรดู และทรงคิดได้ว่า วิธีสกัดคำพูดของปุโรหิต
รับสั่งให้ชายง่อยเปลี้ยเข้าเฝ้า แล้วตรัสถามว่า "ในราชสำนักของเรา มีคนพูดมากอยู่คนหนึ่ง เจ้าสามารถทำให้เขาหยุดพูดได้ไหม ?" เขากราบทูลว่า "ถ้าได้ขี้แพะถังหนึ่ง อาจทำให้เขาหยุดพูดได้ พระเจ้าค่ะ"
จึง
รับสั่งให้นำชายง่อยเปลี้ยเข้าวังด้วย
ให้เขานั่งภายในม่านเจาะรูตรงข้ามกับที่นั่งของพราหมณ์ปุโรหิตผู้พูดมากนั้น
พร้อมให้วางขี้แพะแห้งไว้ใกล้ ๆ ชายง่อยเปลี้ยนั้น
พอได้เวลาพราหมณ์ปุโรหิตเข้าเฝ้า
เขาก็เริ่มกราบทูลพูดโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่น เมื่อเขาอ้าปากพูดคำไหน
บุรุษง่อยเปลี้ยก็ดีดขี้แพะที่ทำเป็นก้อนเล็ก ๆ ผ่านม่านเข้าปากเขาทุกคำพูด
พราหมณ์ปุโรหิตจึงได้กลืนกินขี้แพะโดยไม่รู้ตัว
พระราชาทรงทราบว่าขี้แพะหมดแล้ว จึงตรัสว่า
"ท่านอาจารย์ ท่านกลืนกินขี้แพะไปตั้งถังหนึ่งแล้ว ยังไม่รู้อีกหรือ ? ท่าน จงไปถ่ายท้องก่อนที่จะตายเสียเถิด" ตั้งแต่
นั้นเป็นต้นมา พราหมณ์ปุโรหิตปิดปากสนิท แม้ใครจะพูดด้วย ก็ไม่ค่อยจะพูด
พระราชาทรงสบายพระทัย แล้วรับสั่งให้พระราชทานบ้าน 4 หลัง อยู่ในทิศทั้ง 4
ทิศ พร้อมทรัพย์สินแก่ชายง่อยเปลี้ยนั้น
ฝ่ายอำมาตย์ ได้เข้าเฝ้าพระราชาแล้วกราบทูลว่า
"ธรรมดาศิลปะในโลก บัณฑิตทั้งหลาย พึงเรียน แม้เพียงดีดก้อนกรวด ก็ยังช่วยให้ชายง่อยได้สมบัตินี้" แล้วกล่าวคาถานี้ว่า
"ขึ้น
ชื่อว่าศิลปะ แม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็สามารถให้สำเร็จประโยชน์ได้โดยแท้
ขอพระองค์ทรงทอดพระเนตรบุรุษง่อย ได้บ้านทั้ง 4 ทิศ ก็ด้วยการดีดขี้แพะ"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :ศิลปะเป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิต และไม่ควรเป็นคนพูดมาก |
โพสเมื่อ :
15 ม.ค. 2556,10:10
อ่าน 1785 ครั้ง
|