
อัญชลี ธรรมะวิธีกุล ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ 25 มกราคม 2553 “เริ่มต้นอ่านวันนี้ ให้เป็นนิสัยประจำชาติ”
1.สถานการณ์การอ่านในประเทศไทย - ปี 2551 คนไทยอ่านหนังสือลดลงเฉลี่ย 66.3%จากปี2548 ซึ่งคนไทยอ่านหนังสือ 69.1%
- ปี 2551 คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยคนละ 39 นาทีต่อวัน ลดลงจากปี 2548ซึ่งคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ย คนละ 46 นาทีต่อวัน
- อัตราการซื้อหนังสือของคนไทย 2 เล่ม/คน/ปี หรือร้อยละ0.22 ของรายได้ต่อหัว(ปี2550)
- อัตราการอ่านหนังสือของคนไทยเฉลี่ย 5 เล่ม/คน/ปี
- หนังสือที่ขายดีที่สุดในตลาด ได้แก่ หนังสือดารา นิยาย เรื่องย่อละครTV กีฬา สุขภาพ คู่มือต่าง ๆ
2.แนวทางส่งเสริมการอ่าน คณะรัฐมนตรี มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่5สิงหาคม2552ดังนี้ 1.กำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ 2. กำหนดให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปีเป็น วันรักการอ่าน 3. กำหนดให้ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน 4.กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการส่งเสริมการอ่านให้เป็นรูปธรรม 3.เป้าหมาย 1. ประชากรวัยแรงงานที่เป็นผู้รู้หนังสือในระดับใช้งานได้ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ97.21 เป็น 99.2 2. ประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปที่สามารถอ่านออกเขียนได้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ92.64 เป็น 95.3 3. ค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นจากปีละ 5 เล่ม/คน เป็นปีละ 10 เล่ม/คน 4. แหล่งการอ่านได้รับการพัฒนาและเพิ่มจำนวนให้สามารถจัดบริการได้ครอบคลุมทุกตำบล/ชุมชน อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ 5. การสร้างภาคีเครือข่ายการอ่านเพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน 4.คณะกรรมการส่งเสริมการอ่านประกอบด้วย 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานคณะกรรมการ 2. กรรมการ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่าน การจัดทำและผลิตหนังสือ นักเขียน ราชบัณฑิตผู้แทนหน่วยงานสังกัด ศธ. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 67 ราย 3. ฝ่ายเลขานุการ สำนักงาน กศน. โดย รมว.ศธ.ได้ลงนามแต่งตั้ง สำนักงานโครงการส่งเสริมการอ่าน สังกัดสำนักงาน กศน.จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่20พฤศจิกายน2552โดยมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้ 1.เสนอนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการส่งเสริมการอ่านต่อคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2.เสนอแนะแนวทางวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรมส่งเสริมการอ่าน และการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ 3.ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนนโยบายและแผนงานส่งเสริมการอ่าน 4.ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่าน 5.ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามแผนงานส่งเสริมการอ่าน 6.เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการอ่าน การส่งเสริมการอ่านได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานไว้ดังนี้ 1. พัฒนาให้คนไทยให้มีความสามารถในด้านการอ่าน โดยรณรงค์การอ่านเขียนภาษาไทย ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย และสร้างภาคีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาความสามารถในด้านการอ่าน 2.พัฒนาคนไทยให้มีนิสัยรักการอ่านโดยสร้างทัศนคติให้เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการอ่านหนังสือและสื่อทุกรูปแบบ กำหนดมาตรการจูงใจให้ภาคีเครือข่ายร่วมส่งเสริมการอ่านในสังคมไทย 3. สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการส่งเสริมการอ่านโดยแสวงหาภาคีเครือข่าย รวมถึงพัฒนาและเพิ่มจำนวนแหล่งการเรียนรู้ให้สามารถครอบคลุมทุกชุมชน อย่างทั่วถึง มีคุณภาพเพื่อทำให้การอ่านเป็นที่สนใจมากขึ้น 6.แผนงานส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต แผนงานที่1รณรงค์ส่งเสริมการอ่าน เพื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชน เห็นความสำคัญของการอ่าน เกิดนิสัยรักการอ่านมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมการอ่าน แผนงานที่2เพิ่มสมรรถนะการอ่าน เพื่อที่จะพัฒนาทักษะการอ่านของเยาวชนไทย ให้อ่านออกเขียนได้เพื่อการเรียนภาษาไทยให้สัมฤทธิ์ผล รวมถึงการพัฒนาการอ่านของพ่อแม่ ซึ่งจะส่งผลต่อลูก นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นออกมาเป็นสื่อประเภทต่าง ๆ ด้วย แผนงานที่3สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมการอ่าน เพื่อพัฒนาปัจจัยต่าง ๆ ที่สนับสนุนและส่งเสริมการอ่านของประชาชนไทย ได้แก่ แหล่งเรียนรู้การอ่านสื่อประเภทต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิคส์ หลักสูตรการเรียนการสอนด้านการอ่าน รวมไปถึงการพัฒนาครูและบรรณารักษ์ ให้เป็นนักส่งเสริมการอ่าน แผนงานที่4เครือข่ายความร่วมมือการอ่าน เพื่อสร้างและพัฒนาศักยภาพ และขยายภาคีเครือข่ายการทำงานด้านการส่งเสริมการอ่าน เพื่อนำไปสู่การสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมการอ่านที่ดีขึ้น แผนงานที่5แผนงานวิจัยและพัฒนาการอ่าน เพื่อศึกษา วิจัยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการอ่านของประเทศไทย และนานาชาติ โดยผลที่ได้จากการศึกษาวิจัยนี้จะนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาเทคนิควิธีการส่งเสริมการอ่าน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการอ่านของประชากรไทยต่อไป
เอกสารอ้างอิง:สำนักงานโครงการส่งเสริมการอ่าน,สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย.2552 – 2561ทศวรรษแห่งการอ่าน.2552. |